บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
บ็อบ ดิลลัน (
อังกฤษ: Bob Dylan) หรือชื่อจริง
โรเบิร์ต อัลเลน ซิมเมอร์แมน (
อังกฤษ: Robert Allen Zimmerman; เกิด 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1941) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ศิลปิน
จิตรกร นักประพันธ์ และ
กวีชาวอเมริกัน ที่มีผลงานในวงการดนตรีมาตลอดกว่า 5 ทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษ 1960 จนได้รับฉายาให้เป็น "ราชาแห่งโฟล์ก"
[1][2] ด้วยภาพลักษณ์ของดิลลันในการแต่งเพลงที่เน้นเนื้อหาทางสังคมและการต่อต้านสงคราม มีเพลงตัวอย่างเช่น "Blowin' in the Wind" และ "The Times They Are a-Changin'" ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเพลงสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชนและการต่อต้านสงครามในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เขายังได้ออกซิงเกิล "Like a Rolling Stone" ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี ค.ศ. 1965 และได้รับการจัดอันดับจากโรลลิงสโตนให้เป็นเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
[3] และได้รับความนิยมอย่างยิ่งในช่วงกลางยุค 1960 ที่มีโอกาสได้ขึ้นชาร์ตสูงๆ แต่ถึงอย่างก็ดีดิลลัน ก็ถูกวิจารณ์จากศิลปินโฟล์กด้วยกัน ที่เขาได้หันกลับร่วมบรรเลงกับวงกีตาร์ไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นการทิ้งแนวเพลงโฟล์ก ที่เขาได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำ "ยุคบุกเบิกดนตรีโฟล์กอเมริกัน" (American folk music revival)เนื้อเพลงของดิลลันยุคแรก จะเกี่ยวกับ
การเมือง สังคม ปรัชญา และอิทธิพลจาก
วรรณคดี ดนตรีของเขาได้ต่อต้านกระแสนิยมทางดนตรี
ป็อปและนำโฟล์กเข้ามามีบทบาทในกระแสสังคม เขาได้รับแรงบันดาลใจด้านการแสดงมาจาก
ลิตเทิล ริชาร์ด และการประพันธ์เพลงแบบ วูดดี กัทรี, โรเบิร์ต จอห์นสัน และ
แฮงก์ วิลเลียมส์ ตลอดชีวิตด้านงานดนตรีของเขา ดิลลันได้ขยายสาแหรกแนวย่อยดนตรีเป็นจำนวนมาก ได้เป็นผู้บุกเบิกวงการเพลงโฟล์กในอเมริกันสู่โฟล์กใน
อังกฤษ สกอตแลนด์และ
ไอร์แลนด์ และผลักดันดนตรีโฟล์กให้กลับมาได้รับความนิยม รวมไปถึง
บลูส์,
คันทรี, กอสเปล,
ร็อกอะบิลลี และ
แจ๊ส[4] ดิลลัน เป็นที่รู้จักจากศิลปินที่ทั้งแต่งและร้องเอง จนได้รับการยกย่องให้เป็นนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง
[5] และภาพลักษณ์การแสดงสดที่เล่นกีตาร์ พร้อมกับเปล่าฮาร์โมนิกา รวมไปถึงคีย์บอร์ด เขาได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายยุค 1980 จนได้รับการยกย่องให้เป็นทัวร์ "Never Ending Tour"นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ดิลลันได้ออกผลงานวาดรูปและลงสีมาแล้วกว่า 6 เล่ม และได้รับการจัดแสดงในเวทีใหญ่หลายครั้ง ในด้านงานดนตรี ดิลลันได้จำหน่ายอัลบั้มไปแล้วกว่า 100 ล้านชุด ทำให้เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มโดยรวมสูงที่สุดตลอดกาล เขายังได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 11
รางวัลแกรมมี รางวัลลูกโลกทองคำ และ
รางวัลออสการ์ ดิลลันได้รับการบรรจุเข้าสู่
หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล, หอเกียรติยศมินนิโซตามิวสิก, หอเกียรติยศนักประพันธ์เพลงแนชวิลล์ และ หอเกียรติยศนักประพันธ์เพลง ในปี ค.ศ. 2008 เขาก็ได้รับรางวัลจาก
พูลิตเซอร์ ในโอกาศพิเศษสำหรับ "ที่เขาสร้างไว้ต่อวงการดนตรีนิยมและวัฒนธรรมอเมริกัน ด้วยเนื้อเพลงและบทประพันธ์ที่เรียบเรียงอย่างทรงพลัง"
[6] ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 ดิลลันได้รับเกียรติรับ
เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นเหรียญสูงสุดของพลเรือน จาก
ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามาในปี ค.ศ. 2016 ดิลลันได้รับ
รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม[7]